ศรชล.ตรวจเข้มเรืออ่าวไทยฝั่งตะวันออก สกัดลำเลียงพลังงาน–ยุทธภัณฑ์ไปกัมพูชา
ศรชลตรวจเข้มเรืออ่าวไทยฝั่งตะวันออกสกัดลำเลียงพลังงาน–ยุทธภัณฑ์ไปกัมพูชา
ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาค 1 ได้มอบหมายให้ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตราด ปฎิบัติการตามมติของทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการกำกับดูแลน่านน้ำอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าพลังงาน และยุทธภัณฑ์ไปยังประเทศกัมพูชา ทาง ศรชล.จ.ตราด จึ้งได้เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจตราซื้อสินค้าต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในทะเลอ่าวไทย
โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน สถานีตำรวจน้ำแหลมงอบ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราด ด่านศุลกากรจังหวัดตราด และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตราด ห่วงระหว่างวันที่ 24–28 ธันวาคม 2568 ได้เข้าตรวจสอบกลุ่มเรือยนต์ลากจูง พร้อมเรือพ่วงสินค้าที่เดินทางออกจากท่าเรือแหลมฉบัง และจอดทิ้งสมอบริเวณพื้นที่เกาะช้างใต้ จังหวัดตราด
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มเรือดังกล่าวเป็นเรือลากจูงและเรือพ่วงรับสินค้าจากกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 28 ลำ แยกเป็นเรือลากจูง 5 ลำ และเรือพ่วงสินค้า 23 ลำ โดยทั้งหมดจอดพักรอในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
ต่อมาเมื่อวันที่ 27-28 ธันวาคม 2568 ศรชล.จ.ตราด ได้เข้าตรวจสอบเพิ่มเติม เรือลากจูงและเรือพ่วงขนสินค้าอีก 5 ลำ ซึ่งเดินทางมาจากอำเภอศรีราชา โดยระหว่างเดินเรือมาถึงบริเวณใกล้เกาะกูด ลูกเรือได้รับทราบสถานการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา จึงตัดสินใจจอดเรือทิ้งสมอเพื่อความปลอดภัย
โดยมีการเริ่มจอด ณ บริเวณอ่าวบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จว.ตราด ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา และยังไม่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา ในห้วงเวลานี้ จะรอจนกว่าการสู้รบจะสงบหรือนำเรือกลับ ทั้งนี้ได้ชี้แจงปัญหาและสถานการณ์ของความขัดแย้งแนวชายแดน และพื้นที่เสี่ยงอันตรายให้มีความระมัดระวัง เพราะอาจที่จะเข้าหลงเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงได้
ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาค 1 ได้มอบหมายให้ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตราด ปฎิบัติการตามมติของทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการกำกับดูแลน่านน้ำอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าพลังงาน และยุทธภัณฑ์ไปยังประเทศกัมพูชา ทาง ศรชล.จ.ตราด จึ้งได้เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจตราซื้อสินค้าต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในทะเลอ่าวไทย
โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน สถานีตำรวจน้ำแหลมงอบ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราด ด่านศุลกากรจังหวัดตราด และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตราด ห่วงระหว่างวันที่ 24–28 ธันวาคม 2568 ได้เข้าตรวจสอบกลุ่มเรือยนต์ลากจูง พร้อมเรือพ่วงสินค้าที่เดินทางออกจากท่าเรือแหลมฉบัง และจอดทิ้งสมอบริเวณพื้นที่เกาะช้างใต้ จังหวัดตราด
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มเรือดังกล่าวเป็นเรือลากจูงและเรือพ่วงรับสินค้าจากกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 28 ลำ แยกเป็นเรือลากจูง 5 ลำ และเรือพ่วงสินค้า 23 ลำ โดยทั้งหมดจอดพักรอในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
ต่อมาเมื่อวันที่ 27-28 ธันวาคม 2568 ศรชล.จ.ตราด ได้เข้าตรวจสอบเพิ่มเติม เรือลากจูงและเรือพ่วงขนสินค้าอีก 5 ลำ ซึ่งเดินทางมาจากอำเภอศรีราชา โดยระหว่างเดินเรือมาถึงบริเวณใกล้เกาะกูด ลูกเรือได้รับทราบสถานการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา จึงตัดสินใจจอดเรือทิ้งสมอเพื่อความปลอดภัย
โดยมีการเริ่มจอด ณ บริเวณอ่าวบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จว.ตราด ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา และยังไม่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา ในห้วงเวลานี้ จะรอจนกว่าการสู้รบจะสงบหรือนำเรือกลับ ทั้งนี้ได้ชี้แจงปัญหาและสถานการณ์ของความขัดแย้งแนวชายแดน และพื้นที่เสี่ยงอันตรายให้มีความระมัดระวัง เพราะอาจที่จะเข้าหลงเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงได้
相关文章:
相关推荐:
- 三层别墅装修如何设计 三层别墅装修风格
- 初三议论文:谈诚信 13
- 智能感应垃圾桶的工作原理
- 百度经验个人助手数据如何导入Excel
- 环境肇庆项目环卫工人梁亚盆荣获2024年敬老爱亲“广东好人”荣誉
- 日媒曝日本排球王子高桥蓝 同时与网红和AV女优交往
- 寂静岭2重制版全收集与解谜大全 寂静岭2重制版全收集游戏攻略
- 广东河南辽宁打造跨省组合 宁泽涛有望入选三省接力队
- บขส.เผยยอดเดินทางวานนี้กว่า 1.36 แสนคน เคลียร์พื้นที่หมอชิต 2 ได้ภายในเที่ยงคืน
- สวนดุสิตโพลเผยดัชนีการเมือง ธ.ค.68 ลดลงเกือบทุกตัวชี้วัด ปชช.หวัง รบ.ใหม่เร่งฟื้นเศรษฐกิจ
栏目分类
最新文章
